วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ปูนขาวจากเปลือกหอยแคง

ข้อเสนอแนะ


1.ไม่ควรไปโดนหรือเขี่ยเปลือกหอยขณะกำลังเผาอยู่

2.หากต้องการปูนขาวจำนวนมากก็ใช้เปลือกหอยจำนวนมากๆ

ผลที่ได้จากโครงงาน





อุปกรณ์และวิธีดำเนินการ


อุปกรณ์

1.เปลือกหอยแครง




2.เตา(แบบใช้ถ่านดำ) 1 เตา




3.ไม้ขีด

4.กาละมังใส่น้ำ 1 ใบ




5.ถุงพลาสติก 1 ใบ


6.ถ่านดำ




วิธีการดำเนินการ

1.นำเปลือกหอยไปล้างน้ำให้สะอาด




2.นำเปลือกหอยที่ล้างสะอาดแล้วไปตากจนแห้ง




3.นำเปลือกหอยที่ตากแห้งแล้วไปเผาแล้วใส่ถ่านทับจนปิดเปลือกหอยหมดทิ้งไว้ประมาณ2-3ชั่วโมง




4.พอเปลือกหอยเริ่มสึกหร่อนำใส่ถุงพลาสติกแล้วพรมน้ำเล็กน้อย




5.ทิ้งไว้จนละลายกลายเป็นปูนขาว





ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า


วันที่ 11-12สิงหาคม 2553

เวลา 10.00น.-15.00น.


ประโยชน์ของโครงงาน


ปูนขาวที่คนเฒ่าคนแก่ใช้รับประทานหมาก โดยการนำหอยมาทำปูนขาวเอง จะไม่มีสารเคมีเจือปน และช่วยลดปัญหามลภาวะทางน้ำและลดปัญหาโลกร้อน

สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า

เมื่อนำเปลือกหอยที่เผาแล้วใส่ถุงพลาสติกทิ้งไว้ แล้วได้ผงของเปลือกหอย จะได้ปูนขาวที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีสารเคมี และช่วยลดค่าใช่จ่ายภายในครัวเรือนได้



สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า


เมื่อได้เปลือกหอยแคงแล้วก็เผาเปลือกหอยให้เปลือกหอยเกิดการศึกกร่อนแล้วนำมาใส่ในถุงใส่น้ำเล็กน้อยเปลือกหอยจะค่อยๆกลายเป็นผงปูนขาว


ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง
ตัวแปรต้น  เปลือกหอย
ตัวแปรตาม  ปูนขาว
ตัวแปรควบคุม  เวลา  ปริมาณ



ที่มาและความสำคัญของโครงงาน


เนื่องจากปัจจุบันผู้คนในสมัยนี้นิยมรับประทานหอยเป็นจำนวนมาก โดยไม่คำนึงถึงว่าเมื่อรับประทานเสร็จแล้วจะนำเปลือกหอยไปทำอย่างไร ซึ่งปัจจุบันผู้คนนิยมรับประทานหอยแล้วทิ้งเปลือก ทำให้เปลือกหอยไม่มีประโยชน์ในการใช้งานต่างๆ เปลือกหอยก็จะเกลื่อนกลาดและย่อยสลายยาก ซึ่งปัญหาเปลือกหอยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน คณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นปัญหาของเปลือกหอย จึงคิดทำโครงงานในการนำเปลือกหอยมาทำเป็นปูนขาว ที่ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น การกินหมาก ซึ่งในปัจจุบันถึงแม้เทคโนโลยีจะทันสมัย ดูเหมือนไม่เหลือวิถีชาวบ้านที่กินหมากแล้ว แต่หมู่บ้านของผู้จัดทำและหมู่บ้านอื่นที่ชนบทก็ยังมีการกินหมากอยู่

การซื้อปูนขาวเพื่อกินกับหมากเป็นการสิ้นเปลือง คณะผู้จัดทำจึงคิดทำปูนขาวขึ้นมาไว้รับประทานเอง เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนและลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย